หลวงปู่สอนไว้/พระธรรมมังคลาจาย์ วิ.(หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล)/ปัจจุบันพระพรหมมงคล วิ.)


 หลวงปู่สอนไว้/พระธรรมมังคลาจาย์ วิ.(หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล)/ปัจจุบันพระพรหมมงคล วิ.)

ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๗, เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร

อำเภอจอมทอง  จังหวัดเชียงใหม่

ทุกข์มีเพราะอยาก ทุกข์มากเพราะยึด ทุกข์ยืดเพราะพลอย ทุกข์น้อยเพราะหยุด ทุกข์หลุด

เพราะปล่อย (๒)

            จงเห็นยาวยิ่งกว่าสั้น และเห็นสั้นยิ่งกว่ายาว คือรักยาวให้บั่น เวรย่อมระงับด้วยการไม่มีเวร

รักสั้นให้ต่อ จงรักษามิตรภาพซึ่งกันและกัน การแตกมิตรเป็นการตัด อย่าไปเห็นสั้นคิดสั้นต้องรักษาไมตรีกันตลอดไป(๓)

            นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญู กตเวทิตา ความรู้จักบุญคุณของผู้อื่น เป็นเครื่องหมายของคนดี

การที่เราได้ทำสิ่งใด ๆ ให้ผู้อื่น อย่าได้ถือว่าเป็นบุญคุณ แต่ให้ถือว่าเป็นบุญหรือเป็นคุณประโยชน์

แก่ผู้อื่น แต่ไมควรลืมบุญคุณผู้อื่น แม้เขาให้น้ำดื่มเพียงแก้วเดียว(๔)

       การได้เห็นพระอริยะก็ดี การเข้าหาพระอริยะก็ดี ยังไม่ประเสริฐเท่ากับการทำตนให้เป็นพระอริยะ(๕)

การทำวัตรสวดมนค์นั้น เพื่อจะได้สรรเสริญพระบารมี หรือสาธยายธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

สวดทุกคำไปนั้น เป็นคำสอนของพระพุทธเข้า ที่พระองค์ได้ทรงตรัสไว้ เป็นธรรมสังเวช ทำให้จิตใจเรา

มีความบริสุทธิ์จากอกุศลกรรมทั้งหลาย ทำให้ล้างความชั่วออกจากจิตใจเสียได้ จิตใจเราก็มีความปลอดโปร่งแช่มชิ่น มีความสงบเป็นที่ตั้งของสมาธิ ในการประพฤติปฏิบัติเจริญวิปัสสนาต่อไป (๒๔)

การสวดมนต์เป็นการปฏิบัติบูชาอย่างหนึ่ง ขณะที่กำลังสวดมนต์ก็ต้องเจริญสติ พุ่งความรู้สึกน้อมจิตลงไปในเนื้อหาสาระของมนต์ แต่ละบทให้ได้อย่างชัดเจน แต่ละประโยคมีความหมายอยู่ในการที่จะต้องฝึกตรวจตรองดูให้รู้ชัด เพราะเป็นของที่ต้องปฏิบัติตามให้รู้แจ้งแทงคลอดในทุกขั้นตอน มนต์แต่ละบทล้วนแฝงด้วยนัยยะแห่งธรรมะตลอดเวลา ที่ปวงสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ต้องเป็นไปอย่างนั้นทั้งหมด ขอให้ท่านจงเจริญสติดูให้ทันในปัจจุบันธรรมตลอดเวลา (๘๔)

            การบูชามีอยู่ ๒ ประการ คือ อามิสบูชา ได้แก่ ดอกไม้ ธูปเทียน เครื่องวัตถุทานฯ, ปฏิบัติบูชา

คือการลงมือทำตามคำสอนของพระพุทธองค์ พวกเราทั้งหลาย ควรจะมีการบูชาพระพุทธองค์ทั้ง  ๒ ประการอย่างสมบูรณ์ เป็นการบูชาที่สูงสุด (๘๓)

        การได้ยินได้ฟัง ได้ทราบจากเสียงก็ดี จากตำรา จากหนังสือก็ดี หากว่าเราไม่มีทิฏฐิมานะ

มีความฉันทะพอใจแล้ว พระธรรมของพระพุทธเจ้า ก็หลั่งไหลไปสู่จิตใจของบุคคลนั้นอย่างแน่นอน

พระธรรมนั้นจะเป็นมหากุศลเกิดขึ้นในธสันดาน อีกทั้งเป็นธรรมโอสถ จะทำให้ผู้ฟัง ผู้รู้ หายโรค

ภายใน และภายนอกอีกด้วย (๘๙)

            ผู้ที่ยินดีในการหลับนอน ตื่นสายเป็นที่น่าเอ็นดูสงสาร คนจำพวกนี้มันตกอยู่ในห้วงเหว

แห่งความเสื่อม จะไม่งอกงามในคำสอนของพระพุทธเจ้า มีแต่จะเสื่อมไป การหลับนี้ไม่มีใครอิ่ม

เวลาหลับเหมือนกับเรือลอยละล่องไป ไม่มีกัปตัน ไม่มีถ่อ ไม่มีพาย ไม่มีอะไรเลยมันก็ลอยไป การก้าวหน้าทางจิตใจไม่มีแล้ว มีตัวโมหะปิดบังอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา ไม่งอกงามในพระธรรมวินัย เรียก

ว่าความยินดีในการหลับนอน เป็นเหตุทำให้เนิ่นช้าที่จะให้ไปสู่ทางแห่ง มรรค ผล นิพพาน (๙๘)


ที่มาของรูปภาพ : โดย พระธรรมมังคลาจารย์ - งานของตัว, CC BY-SA 4.0, https://commons.wikimedia.org/w/index.php?curid=47332012

ความคิดเห็น